คอลัมน์ เหล็กใน
ก็มาถึงวันโลกหยุดหมุนรอฟังคำตัดสินศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมือง
จะยึด ไม่ยึด หรือยึดแค่บางส่วน
อีกไม่กี่อึดใจข้างหน้าคงได้รู้กัน
ซึ่งไม่ว่าผลคำตัดสินออกมาอย่างไรก็จะถูกบันทึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์การเมืองไทย
จำได้ว่าเมื่อครั้งศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคไทยรักไทย ศาลได้ใช้เวลาอ่านคำพิพากษาอยู่นานหลายชั่วโมง
ครั้งนี้ก็คงไม่มากน้อยกว่ากันเท่าไหร่
และคำพิพากษาอาจฟังยากกว่าด้วยซ้ำในแง่ประชาชนทั่วไปที่ไม่มีความรู้เรื่องข้อกฎหมายเป็นทุนเดิม
โดยเฉพาะคดียึดทรัพย์นี้มีเนื้อหาความเป็นมาค่อนข้างสลับซับซ้อนกว่าคดียุบพรรค
บางช่วงบางตอนหลายคนฟังแล้วอาจไม่เข้าใจถ่องแท้
ตรงนี้เองเป็นหน้าที่ของเหล่าบรรดานักกฎหมายหรือนักวิชาการด้านนิติศาสตร์ ต้องช่วยออกมาขยายความคลี่คลายแง่มุมต่างๆ ในคำพิพากษา
ให้ประชาชนในสังคมได้เข้าใจอย่างถูกต้องและละเอียดถี่ถ้วน
อธิบายให้เห็นว่าศาลท่านได้ตัดสินคดีด้วยความยุติธรรมอย่างไร
ทั้งนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้ใครนำเอาผลคำตัดสินไปบิดเบือนสร้างความเสียหายให้ผู้พิพากษาองค์คณะ
หรือใช้เป็นเครื่องมือใส่ร้ายทำลายการเมืองฝ่ายตรงข้ามเหมือนอย่างที่มีโฆษกพรรคการเมืองบางพรรคกระทำก่อนหน้านี้
ยังดีศาลท่านเมตตาไม่อยากเอาเรื่อง ก็เลยรอดตัวไป
เอาเป็นว่าสำหรับประชาชนทั่วไปทุกเพศ ทุกวัย ทุกสาขาอาชีพ
ถ้าพอมีเวลาก็อยากให้สละมาฟังการอ่านคำพิพากษาคดีนี้
ใครฟังแล้วไม่เข้าใจก็แนะนำให้ติดตามทางสื่อต่างๆ ทั้งหนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ ฯลฯ
เพราะเชื่อว่าทุกสื่อคงต้องเสนอข่าวนี้กันอย่างครึกโครม
นักวิชาการนิติศาสตร์หรือนักกฎหมายก็คงออกมาแสดงความเห็นผ่านสื่อกันอย่างคึกคักทุกแง่มุม
จึงอยากให้รอฟังหรือรออ่านกันต่อไป
นอกจากจะได้ความรู้แล้วที่สำคัญคือจะได้ไม่ตกเป็นเครื่องมือให้ใครชักจูงออกไปเคลื่อนไหวตามถนนหนทางได้ง่ายๆ
หรือถ้าใครอยากจะออกไปก็ต้องออกไปแบบคนที่มีความรู้ฉลาดเท่าทัน
ไม่ใช่ออกไปแบบเอามันลูกเดียว
ที่มา http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROd2Iyd3dNakkyTURJMU13PT0=§ionid=TURNd05BPT0=&day=TWpBeE1DMHdNaTB5Tmc9PQ==
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น